Data Analytics ใช้ทำอะไรในธุรกิจ และข้อมูลแบบไหนที่วิเคราะห์แล้วเกิดประโยชน์จริง
Data Analytics หรือ “การวิเคราะห์ข้อมูล” ได้กลายเป็นหัวใจสำคัญของการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ในองค์กรทุกขนาด ตั้งแต่ Startup ไปจนถึงบริษัทข้ามชาติ
หลายองค์กรทราบดีว่า Data มีค่า แต่กลับไม่แน่ใจว่าจะเริ่มใช้มันอย่างไรให้เกิดผลลัพธ์ทางธุรกิจที่วัดได้จริง
บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจว่า Data Analytics ใช้ทำอะไรในธุรกิจได้บ้าง พร้อมแนะแนวว่า “ข้อมูลแบบไหน” ที่จะช่วยให้คุณวิเคราะห์แล้วได้ประโยชน์สูงสุด
Data Analytics คืออะไร?
Data Analytics หมายถึงกระบวนการรวบรวม ตรวจสอบ วิเคราะห์ และแปลผลข้อมูล เพื่อนำไปใช้ในการตัดสินใจ
อ้างอิงจาก Gartner (2023):
“Data Analytics is the discipline of extracting meaningful insights from data to support decision-making and strategic planning.”
ในระดับธุรกิจทั่วไป Data Analytics สามารถแบ่งเป็น 4 ประเภท:
ประเภท | คำอธิบาย | ตัวอย่างการใช้ |
---|---|---|
Descriptive Analytics | วิเคราะห์ว่าเกิดอะไรขึ้น | สรุปยอดขายรายเดือน |
Diagnostic Analytics | หาสาเหตุของปัญหา | วิเคราะห์ว่าทำไมลูกค้าไม่กลับมาซื้อซ้ำ |
Predictive Analytics | คาดการณ์อนาคต | ทำนายยอดขายจากแนวโน้มที่ผ่านมา |
Prescriptive Analytics | แนะนำการกระทำ | เสนอโปรโมชั่นเฉพาะกลุ่มลูกค้า |
แล้วธุรกิจใช้ Data Analytics ทำอะไรได้บ้าง?
1. ปรับกลยุทธ์การตลาดให้แม่นยำขึ้น
-
วิเคราะห์ว่าแคมเปญไหนให้ผลตอบแทนดีที่สุด (ROI)
-
สร้าง segmentation เพื่อทำการตลาดเฉพาะกลุ่ม
2. เข้าใจพฤติกรรมลูกค้าแบบเชิงลึก
-
วิเคราะห์ customer journey จาก click-to-buy
-
วิเคราะห์ churn rate เพื่อรักษาลูกค้าเดิม
3. พยากรณ์ยอดขายหรือทราฟฟิก
-
ใช้ historical data เพื่อคาดการณ์แนวโน้มยอดขาย
-
เตรียมสินค้าคงคลังให้เหมาะสม (Inventory Forecasting)
ข้อมูลแบบไหนที่ “ต้องมี” เพื่อเริ่ม Data Analytics
การจะวิเคราะห์ข้อมูลให้มีประสิทธิภาพ ต้องอาศัย ข้อมูลที่เชื่อถือได้ ครบถ้วน และสอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ
1. ข้อมูลยอดขาย (Sales Data)
-
วันที่ขาย
-
SKU สินค้า
-
จำนวนและมูลค่าการขาย
-
ช่องทางการขาย
2. ข้อมูลลูกค้า (Customer Data)
-
อายุ / เพศ / พื้นที่
-
ประวัติการสั่งซื้อ
-
ช่องทางที่ใช้ติดต่อ เช่น LINE, Facebook, Shopee
3. ข้อมูลการตลาด (Marketing Data)
-
ค่าใช้จ่ายแคมเปญ
-
จำนวนคลิก / conversion
-
CTR (Click-through Rate)
4. ข้อมูลพฤติกรรม (Behavioral Data)
-
หน้าเว็บที่ลูกค้าเข้าดู
-
ความถี่ในการกลับมา
-
เวลาที่ใช้บนเว็บไซต์
ทำไมการวิเคราะห์ข้อมูลบางครั้ง “ไม่เกิดผล”
แม้จะมีข้อมูลมาก แต่หลายธุรกิจก็ยังวิเคราะห์ไม่เกิดผล เพราะขาดองค์ประกอบสำคัญ:
-
ไม่มีเป้าหมายชัดเจน — วิเคราะห์โดยไม่รู้ว่าจะใช้ข้อมูลตอบอะไร
-
ข้อมูลไม่สะอาด (Data Quality ต่ำ) — มีช่องว่าง, ซ้ำซ้อน หรือไม่อัปเดต
-
ไม่มีการนำ insight ไปใช้จริง — ข้อมูลอยู่ใน Dashboard แต่ไม่มี action plan ตามมา
สรุป: เริ่ม Data Analytics ให้ถูกวิธี ต้องเริ่มจาก “คำถาม” ไม่ใช่ “ข้อมูล”
การทำ Data Analytics ให้สำเร็จ ไม่ใช่การเก็บข้อมูลให้มากที่สุด แต่คือการตั้งคำถามที่ถูกต้อง แล้วตามหาข้อมูลที่ตอบคำถามนั้นได้
ตัวอย่างคำถามที่ช่วยเริ่มต้นได้ดี:
-
กลุ่มลูกค้าไหนที่สร้างรายได้มากที่สุด?
-
แคมเปญที่ผ่านมาคุ้มหรือไม่?
-
ทำไมลูกค้าซื้อครั้งเดียวแล้วไม่กลับมา?
ถ้าคุณเริ่มต้นจากคำถามเหล่านี้ พร้อมข้อมูลที่ดี คุณก็สามารถใช้ Data Analytics เพื่อขับเคลื่อนการตัดสินใจในธุรกิจได้จริง